Eternal Sunshine of the Spotless Mind Movie Review: Even if the brain forgets, the heart still remembers

รีวิวหนัง Eternal Sunshine of the Spotless Mind แม้สมองจะลืม แต่หัวใจยังจำ


ประเภทของภาพยนตร์: โรแมนติก, ไซไฟ


วันที่เข้าฉาย: 19 มีนาคม 2547


ผู้กำกับ: Michel Gondry


นักแสดงนำ: Jim Carrey, Kate Winslet, Elijah Wood, Kirsten Dunst, Mark Ruffalo


ความยาว : 108 นาท


Eternal-Sunshine-of-the-Spotless-Mind-Movie-Review-Even-if-the-brain-forgets-the-heart-still-remembers


เรื่องย่อ:


หนังออนไลน์ โจเอล บาริช ชายหนุ่มที่มีชีวิตเรียบง่ายและขี้อาย พบว่าคลีเมนไทน์ ครูซินสกี้ แฟนสาวที่เลิกรากันไป ได้เข้ารับการผ่าตัดเพื่อลบความทรงจำทั้งหมดที่เกี่ยวกับเขาโดยใช้บริการของบริษัท Lacuna ในนิวยอร์กซิตี้ ข่าวนี้ทำให้เขาเสียใจอย่างมาก โจเอลตัดสินใจทำเช่นเดียวกัน โดยเข้ารับการผ่าตัดเพื่อลบความทรงจำของเขาเกี่ยวกับคลีเมนไทน์

ในขั้นตอนการเตรียมการ โจเอลบันทึกเทปเล่าเรื่องราวและความทรงจำที่เขามีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและไม่แน่นอนกับคลีเมนไทน์ พนักงานของ Lacuna จึงเริ่มทำงานกับสมองของโจเอลในขณะที่เขานอนหลับอยู่ในอพาร์ตเมนต์ เพื่อให้เขาตื่นขึ้นมาโดยไม่เหลือความทรงจำใดๆ เกี่ยวกับคลีเมนไทน์

แพทริก หนึ่งในพนักงานที่เข้าร่วมในการลบความทรงจำของโจเอล แอบนำข้อมูลเกี่ยวกับคลีเมนไทน์มาใช้เพื่อพยายามล่อลวงเธอ โดยอาศัยความทรงจำที่เธอมีต่อโจเอลเป็นแนวทาง ในขณะที่ขั้นตอนการลบความทรงจำดำเนินไป ช่างเทคนิคชื่อสแตนและแมรี่ เลขานุการของบริษัทก็ใช้เวลาไปกับการเสพยา ปาร์ตี้ และมีความสัมพันธ์ทางเพศกันอย่างไม่เหมาะสม

ในช่วงที่ขั้นตอนกำลังดำเนินอยู่ในจิตใจของโจเอล เขาเริ่มหวนคิดถึงความทรงจำต่างๆ เกี่ยวกับคลีเมนไทน์ ขณะที่ความทรงจำเหล่านั้นถูกลบไปเรื่อยๆ โจเอลเริ่มจากความทรงจำที่ไม่ดีอย่างการทะเลาะกันครั้งสุดท้าย แต่เมื่อเขาเริ่มระลึกถึงความทรงจำที่มีความสุขมากขึ้น ก็ทำให้เขาตระหนักว่าเขาไม่อยากลืมคลีเมนไทน์

โจเอลพยายามรักษาความทรงจำของคลีเมนไทน์ไว้ ด้วยการซ่อนเธอไว้ในความทรงจำอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ การกระทำนี้ทำให้กระบวนการลบความทรงจำต้องหยุดชะงัก สแตนโทรหาโฮเวิร์ด หัวหน้าของเขาให้มาช่วยดำเนินขั้นตอนต่อ โจเอลหวนคิดถึงความทรงจำครั้งสุดท้ายที่เขามีกับคลีเมนไทน์ ซึ่งก็คือวันที่พวกเขาพบกันครั้งแรกที่ชายหาดในมอนทอก ในช่วงที่ความทรงจำเหล่านั้นกำลังจางหายไป คลีเมนไทน์บอกโจเอลให้ไปพบเธอที่มอนทอกอีกครั้ง

ขณะที่สแตนออกไปข้างนอก แมรี่ได้เผยความรู้สึกของเธอที่มีต่อโฮเวิร์ดและพวกเขาก็จูบกัน แต่ภรรยาของโฮเวิร์ดมาพบเข้าพอดี และขอให้โฮเวิร์ดบอกความจริงแก่แมรี่ว่าเธอและโฮเวิร์ดเคยมีความสัมพันธ์กันมาก่อน และแมรี่ได้ลบความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกไป แมรี่รู้สึกสับสนและขยะแขยงกับความจริงที่เธอเพิ่งรู้ จึงตัดสินใจขโมยบันทึกการรักษาของบริษัท Lacuna แล้วส่งให้ผู้ป่วยทุกคน รวมถึงโจเอลและคลีเมนไทน์

โจเอลตื่นขึ้นมาในเช้าวันวาเลนไทน์โดยไม่มีความทรงจำใดๆ เกี่ยวกับคลีเมนไทน์ เขารู้สึกไม่สบายใจและขึ้นรถไฟสายลองไอส์แลนด์ไปยังมอนทอกโดยไม่ได้ตั้งใจ และโทรลางาน เขาพบกับคลีเมนไทน์โดยบังเอิญระหว่างการนั่งรถไฟกลับ ทั้งคู่รู้สึกดึงดูดต่อกันอย่างรวดเร็ว และเริ่มต้นออกเดทกัน ทั้งสองใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข โดยที่โจเอลไม่รู้ว่าแพทริกกำลังพยายามล่อลวงคลีเมนไทน์และคอยจับตาดูพวกเขาทั้งสอง

ไม่นานทั้งโจเอลและคลีเมนไทน์ได้รับเทปบันทึกความทรงจำจาก Lacuna ที่แมรี่ส่งมา พวกเขาฟังเทปที่เล่าถึงความทรงจำและปัญหาต่างๆ ที่มีต่อกันในอดีต ทำให้ทั้งคู่รู้สึกสับสนและเสียใจจนเกือบแยกทางกันอีกครั้ง แต่ทั้งสองก็ตัดสินใจเปิดโอกาสให้ความสัมพันธ์ครั้งนี้อีกครั้งหนึ่ง เพราะแม้ว่าความทรงจำในอดีตจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่ก็มีความรักและความผูกพันที่ยังคงเหลืออยู่ และพวกเขาตัดสินใจที่จะลองเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน

Eternal Sunshine of the Spotless Mind ถ่ายทอดเรื่องราวของความรักและการเสียสละผ่านการลบความทรงจำ โจเอลและคลีเมนไทน์ต้องเผชิญกับความทรงจำที่เจ็บปวดเพื่อเรียนรู้ถึงคุณค่าของความรักที่แท้จริง และทำให้เราตระหนักว่าการลืมไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดเสมอไป บางครั้ง ความทรงจำที่เราอยากลืมอาจกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรากลายเป็นคนที่ดีขึ้นและเติบโตขึ้น

 

ความรู้สึกหลังจากชมภาพยนตร์:


หากจิตใจปราศจากความทรงจำทั้งหมด เราจะมีแต่ความสุขที่เจิดจ้าอย่างแท้จริง...จริงหรือเปล่า? หลังจากได้ยินชื่อเสียงของ Eternal Sunshine of the Spotless Mind มานานมาก พอได้ดูจบแล้วถึงกับสตันท์ไปสามนาที น้ำตาไหลแบบไม่รู้ตัว นี่คือหนึ่งในหนังรักที่ให้นิยามของคำว่า "รัก" ได้อย่างลึกซึ้งและตรงใจที่สุดอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว mvhd24.com

เรื่องนี้เล่าถึง "โจเอล" ชายหนุ่มที่ตื่นมาใช้ชีวิตตามปกติ แต่จู่ๆ วันนี้เขาก็รู้สึกอยากนั่งรถไฟไปยังเมืองมอนทอก ระหว่างทางเขาได้พบกับ "คลีเมนไทน์" และได้ใช้เวลาร่วมกันจนตกหลุมรักกัน เช้าวันถัดมา โจเอลไปหาเธอที่บ้าน แต่ทว่ากลับเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เขารู้ว่าคลีเมนไทน์ทำเหมือนไม่เคยรู้จักเขามาก่อน และสุดท้ายก็พบว่าเธอได้ใช้บริการ "ลบความทรงจำ" เกี่ยวกับเขาไปทั้งหมด โจเอลโกรธมาก จึงตัดสินใจลบความทรงจำที่เกี่ยวกับคลีเมนไทน์ด้วยเช่นกัน

หากไม่ได้รู้เรื่องย่อมาก่อนอาจจะทำให้ช่วงแรกของหนังค่อนข้างงง แต่พอถึงตอนจบ ทุกอย่างจะมีความหมายและพีคอย่างไม่คาดคิด หนังทำให้หัวใจเราเต้นแรง และเมื่อตอนท้ายเรื่องหนังย้อนกลับไปเชื่อมกับช่วงเริ่มต้นอีกครั้ง รู้สึกขนลุก น้ำตาซึม มันเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่อัดแน่นจนเกินจะบรรยายได้ ยิ่งเมื่อได้ดูหนังครั้งแรกและพยายามทำความเข้าใจกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เชื่อว่าใครที่กลับมาดูซ้ำจะได้หลงรักหนังเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น

เป็นหนังรักที่พล็อตแปลกและเล่าเรื่องได้เก่ง แม้ว่าจะมีความไม่สมจริงในพล็อต แต่หนังกลับทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่สมจริงและเข้าถึงได้อย่างลึกซึ้ง หนังผูกเงื่อนไขที่เหนือจริงเข้ากับความรู้สึกเราได้อย่างชาญฉลาดและบีบอารมณ์คนดูจนเกินจะต้านทาน ใครจะไปคิดว่าการลบความทรงจำจะทำให้เรารู้สึกถึงขนาดนี้

หนังเรื่องนี้สอนให้เราเข้าใจการ "ยอมรับ" คนอีกคนหนึ่งมากขึ้น ไม่มีใครที่มีแค่ด้านดี ทุกคนล้วนมีทั้งด้านที่ดีและด้านที่ไม่ดี ซึ่งบางครั้งเราอาจจะเห็นด้านไม่ดีนั้นจนทำให้คิดว่าเราไม่น่าเจอกันเลยด้วยซ้ำ แต่หากการพบกันนั้นเป็น "รักแท้" ไม่ว่าจะผ่านกี่ครั้ง ความรู้สึกที่เคยมีมันก็ยังคงเหมือนเดิม และเราก็จะกลับมาหลงรักคนๆ เดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า

หนังเรื่องนี้เป็นการเล่าเรื่องถึงการลบความทรงจำของโจเอลเกี่ยวกับคลีเมนไทน์ ซึ่งเริ่มต้นจากการเกลียดกันและจบลงด้วยการที่พวกเขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ลืมกัน ฉากการลบความทรงจำถูกเล่าอย่างชาญฉลาด เราได้เห็นช่วงเวลาที่ดีและไม่ดีของทั้งคู่ ผ่านความทรงจำที่เป็นทั้งเรื่องหวานชื่นและขมขื่น มันทำให้เราเห็นถึงความซับซ้อนของความสัมพันธ์ ว่าความรักไม่ได้มีแค่เรื่องดีๆ เท่านั้น แต่ก็มีเรื่องที่ทำให้เจ็บปวดด้วยเช่นกัน

และสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ยอดเยี่ยมที่สุดคงจะเป็นฉากการฟังเทป ทั้งสองคนได้ฟังสิ่งที่พวกเขาพูดถึงกันในช่วงเวลาที่โกรธแค้นและอัดแน่นด้วยความเกลียด แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็ลดอคติในใจ และยอมรับข้อบกพร่องของกันและกัน หากเรารู้จักยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบของอีกคนได้ เราก็จะสามารถอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขได้ แม้จะไม่สมบูรณ์แบบก็ตาม

หนังยังมีความหมายที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับชื่อเรื่อง Eternal Sunshine of the Spotless Mind ที่ไม่ใช่แค่การลืมเลือนอย่างในบทกวีต้นฉบับเท่านั้น แต่มันยังหมายถึงการที่เราไม่เก็บเรื่องแย่ๆ ของอีกฝ่ายมาเป็นจุดด่างพร้อยในจิตใจ หากเราเลือกที่จะโฟกัสในสิ่งที่ดี ความรักของเราก็อาจพบกับความสุขที่ยั่งยืนและสวยงาม

นอกจากนี้ หนังยังแสดงให้เห็นว่าถึงแม้ว่าความทรงจำจะถูกลบไป แต่ความรู้สึกที่แท้จริงก็ไม่อาจลบหายไปได้ เช่นกรณีของแพทริกที่พยายามล่อลวงคลีเมนไทน์โดยใช้ความทรงจำของโจเอล แต่ก็ไม่อาจทำให้เธอตกหลุมรักเขาได้ เพราะความรู้สึกที่แท้จริงในใจของคลีเมนไทน์ยังคงบอกเธอเสมอว่าเธอรักโจเอล

Eternal Sunshine of the Spotless Mind จึงเป็นหนังรักที่ทำให้เราเข้าใจถึงความสำคัญของความทรงจำ และการยอมรับในข้อบกพร่องของคนรัก ว่ามันคือส่วนหนึ่งที่ทำให้ความรักเป็นสิ่งที่งดงามและยั่งยืน

#ดูหนังฟรี #ดูหนังใหม่2024 #EternalSunshineoftheSpotlessMind #แม้สมองจะลืม แต่หัวใจยังจำ

กลับด้านบน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *